“พอล เมอร์สัน แนะลิเวอร์พูลไม่ต่อสัญญา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แม้ยอมรับว่าสโมสรบริหารสัญญานักเตะผิดพลาด”

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) แสดงฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ โดยทำไป 12 ประตูและ 10 แอสซิสต์ ซึ่งไม่ได้บ่งบอกว่าเขากำลังมองหาทางออกจากสโมสร อย่างไรก็ตาม พอล เมอร์สัน (Paul Merson) อดีตนักเตะชื่อดังเชื่อว่า ลิเวอร์พูล (Liverpool) ไม่ควรเสนอสัญญาฉบับใหม่ให้กับดาวยิงชาวอียิปต์ อาร์เน สล็อต (Arne Slot) กุนซือเคยกล่าวไว้ตอนจบเกมกับ นักบุญ เซาแธมป์ตัน ว่า ตัวเขานั้น ไม่ขอพูดเรื่องอนาคตของ ดาวเตะทีมชาติอิยิปต์ เขารู้อย่างเดียวว่า ถ้าอยากรู้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) มีศักภาพขนาดไหนก็ดูได้จากทีมที่เขาจัดในทุกๆ สัปดาห์ จะเห็นได้เลยว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) แทบจะไม่หลุดจากทีมชุดแรกเลยด้วยซ้ำ

 

เจมี่ คาร์ราเกอร์ (Jamie Carragher) อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล วิจารณ์ว่าจังหวะเวลาที่ ซาลาห์ ออกมาพูดนั้น “เห็นแก่ตัว”

เนื่องจากทีมกำลังจะเจอกับ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ใน แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) และเกมเปิดบ้านพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ในสุดสัปดาห์นี้

พอล เมอร์สัน กล่าวผ่านรายการ Soccer Special ว่า ซาลาห์ มีสิทธิ์ที่จะพูดในสิ่งที่เขาคิด แต่เขาเชื่อว่าไม่ควรต่อสัญญากับนักเตะวัย 32 ปีรายนี้ “มันเป็นเรื่องของ ซาลาห์ ที่จะพูดหรือไม่ มันเป็นอาชีพของเขา เขาทำผลงานได้ดี ตัวเลขสถิติของเขายอดเยี่ยมมาก แต่ผมไม่เห็นด้วยที่จะให้สัญญา 2 ปีพร้อมค่าเหนื่อย 300,000-400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์กับนักเตะที่จะอายุ 33 ปีในตอนจบฤดูกาล นั่นหมายความว่าเขาจะยังเล่นจนถึงอายุ 35 ปี ในเวลานี้ มันถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง หากว่าทีม ลิเวอร์พูล นั้น เก็บซาลาห์ เอาไว้ เนื่องจากอายุที่มีมากขึ้น ทาง เมอร์สัน ไม่เชื่อว่า  ซาลาห์ จะยังคงมีความเร็วได้เหมือนเดิม หากขาดเรื่องนี้ไปเขาจะยังเป็นนักเตะที่พิเศษอยู่หรือไม่ และ ในอนาคต ไม่ว่ายังไง การซื้อนักเตะใหม่เข้ามาแทน มันก็ต้องเกิดขึ้นในซักวันอยู่ดี ฉะนั้น ก็อยู่ที่การตัดสินใจของสโมสรเท่านั้น ติดตามฟุตบอล ทุกลีกได้อย่างสนุก ทั้งพรีเมียร์ลีก ไทยลีก ลาลีกา กัลโช่  รวมเว็บวิเคราะห์บอล เด็ดๆ ไว้เพียบที่นี่ แจกทีเด็ด ทุกลีก รวมถึง ไทยลีก ลีกสูงสุดของประเทศไทย

 

การบริหารจัดการสัญญาของ ลิเวอร์พูล ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสื่อและแฟนบอล โดยเฉพาะกรณีของนักเตะคนสำคัญหลายคนที่กำลังจะหมดสัญญา

เมอร์สัน กล่าวว่าเป็นเรื่อง “น่าผิดหวัง” ที่สโมสรปล่อยให้นักเตะระดับท็อปหลายคนอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ซาลาห์  ยังคงทำผลงานในสนามได้อย่างยอดเยี่ยมตัวเขานั้นมีส่วนสำคัญในการพา ลิเวอร์พูล ลุ้นแชมป์หลายรายการ โดยเฉพาะใน พรีเมียร์ลีก (Premier League) และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ดังนั้นเรื่องของการตัดสินใจเรื่องอนาคตของเขาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สโมสรต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างความสำเร็จในระยะสั้นและความยั่งยืนในระยะยาวของทีม อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ หลายฝ่ายยังคงเชื่อว่า ทางสโมสรนั้นจะเตรียมสัญญา ให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แน่นอน เพียงต้องดูจุดตรงกลางที่ทั้งสโมสร และตัวของนักเตะนั้น จะพึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย ตอนนี้ ซาลาห์ ยังคงรักษาร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม เชื่อได้เลยว่าเขาจะเล่นฟุตบอลในระดับสูงได้ต่อไป อีกอย่าง 2 ปีเลยทีเดียว นั้นก็เป็นสิ่งที่เจ้าตัวต้องการ จึงยังไม่อยากที่จะย้ายไปยัง ลีก ซาอุฯ ในเเวลานี้ แม้ว่าจะมีทีมที่ยอมทุ่มเงินมหาศาล เพื่อคว้าตัวเขาก็ตาม

ลี คาร์สลีย์ ยืนยัน การเรียกนักเตะติดทีม สิงโตคำราม ครั้งสุดท้ายของเขา ไม่มี ทูเคิ่ล เกี่ยวข้อง การพูดคุย กับทูเคิ่ล มีแค่การแสดงความยินดีด้วยเท่านั้น

ในที่สุดการเดินทางของ ลี คาร์สลีย์ (Lee Carsley) กับ ทีมชาติ อังกฤษ นั้น ก็ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ในค่ำคืนที่ผ่านมทาง ลี คาร์สลีย์ (Lee Carsley) เองก็มีการประกาศรายชื่อ ทัพสิงโตคำราม ที่เข้าใช้เป็นชุดสุดท้ายก่อนที่จะยกหน้าที่นี้ต่อไปให้กับกุนซือทีมชาติอังกฤษ คนใหม่ที่มีการประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล (Thomas Tuchel) ซึ่งสำหรับในช่วงฟีฟ่า เดย์ ช่วงสุดท้ายนี้ ที่ทาง ลี คาร์สลีย์ (Lee Carsley) จะเป็นกุนซือ นั้นมีโปรแกรมในศึก เนชั่นส์ลีก (UEFA Nations League)  2 นัดด้วยกัน เป็นการพบกับ ทีมชาติ กรีซ และ ไอ่ร์แลนด์  การเรียกตัวผู้เล่นติดทีมชาติ รอบนี้ของเขาถือว่าเซอร์ไพรซ์ ไม่น้อยที่มีการเรียกตัว เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลิส (Taylor Harwood-Bellis)  และ ลูอิส ฮอลล์ (Lewis Hall) เข้ามาติดธงสิงโตคำราม ด้วย และหลังจากที่มีการยืนยันการประกาศรายชื่อออกมาแล้วนั้น ก็มีสื่อสอบถามถึงว่า โธมัส ทูเคิ่ล (Thomas Tuchel) มีส่วนร่วมในการตัดสินใจครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งทาง ลี คาร์สลีย์  (Lee Carsley) ก็ออกมาแถลงแล้วว่า ทาง โธมัส ทูเคิ่ล  (Thomas Tuchel)  นั้นไม่ได้มีอิทธิพลใดๆ ต่อการตัดสินใจเลือกตัวนักเตะของเขาเลยแม้แต่น้อย ที่ผ่านมาการพูดคุย กับ กุนซือคนใหม่ ทีมชาติอังกฤษ ก็มีแค่การแสดงความยินดีด้วยเท่านั้น

 

คาร์สลีย์ เผยเหตุที่เรียก แจ็ค กรีลิช ติดทีมสิงโตคำรามหนนี้ แม้เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บ ย้ำมีการปรึกษากับทีมแพทย์ก่อนแล้วจึงตัดสินใจเรียก

 

สำหรับในกรณีที่ทาง ลี คาร์ลลีย์  (Lee Carsley) ได้มีการเรียกตัวของ แจ็ค กรีลิช (Jack Grealish) ติดธงสิงโตคำราม หนนี้ทั้งที่เจ้าตัวยังมีอาการบาดเจ็บจนไม่ได้ลงเล่นกับทางต้นสังกัดอย่าง แมนฯ ซิตี้ (Manchester City) ถือเป็นรายชื่อที่สร้างความประหลาดใจให้กับบรรดาสื่อต่างๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าในช่วงก่อนหน้านี้ ทางต้นสังกัด อย่าง แมนฯ ซิตี้ (Manchester City) ก็แทบไม่ได้ใช้งานเขาเลยเนื่องจากกำลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ และอยู่ในช่วงที่กำลังเรียกความฟิต แต่กลับมีชื่อทีมชาติ อังกฤษ ในครั้งนี้ เรื่องนี้นั้น ทางกุนซือขัดตาทัพ อย่าง ลี คาร์สลีย์ (Lee Carsley) ก็เปิดเผยออกมาว่า ที่ผ่านมาเขาได้มีการติดต่ออัพเดตอาการของนักเตะ กับทีมแพทย์ มาโดยตลอด ทำให้เขามีความเชื่อมั่นว่า แจ็ค กรีลิช (Jack Grealish)  นั้นจะสามารถ ฟิตสมบูรณ์ได้ทัน เกมการแข่งขันในช่วงนี้แน่นอน  ทางเข้าsbo888 เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา เจ้าตัวสามารถลงซ้อมกับทีม เรือใบสีฟ้า ได้ 2-3 วันแล้ว แต่ทว่าสำหรับเรื่องความฟิตพร้อมของนักเตะ ทางทีมชาติอังกฤษ ก็ยังคงต้องประเมิณกันอีกทีว่า จะสามารถใช้งาน ตัวนักเตะได้หรือไม่อย่างไร  กรณีที่เรียก แจ็ค กรีลิช (Jack Grealish)  เข้ามา ลี คาร์สลีย์ (Lee Carsley) ยังขยายความต่อไปด้วยว่า เนื่องจากเขาเล็งเห็นแล้วว่า แจ็ค กรีลิช (Jack Grealish)  นั้นเป็นส่วนสำคัญของทีม เป็นคนที่มีส่วนช่วยให้ ห้องแต่งตัวของทีม มีบรรยากาศที่ดีได้ ซึ่ง ในโอกาสครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้คุมทีมชาติอังกฤษ ก็อยากจะเห็น แจ็ค กรีลิช (Jack Grealish)  ลงเล่นด้วยเช่นกัน ในส่วนของกองกลางที่มีติดทีมมาครั้งนี้ ก็ยังมีรายชื่อ ของ เคอร์ติส โจนส์ (Curtis Jones) ที่กำลังทำได้ดีกับ ลิเวอร์พูล (Liverpool) อีกคน ครั้งก่อน หลังจากถูกดึงมาติดชุดใหญ่ ทางเข้าsbo888 แต่ยังไม่ทันได้รับโอกาส ก็ต้องถอนตัว ไปเฝ้าภรรยาที่ใกล้คลอด เสียก่อน ดังนั้น คราวนี้จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เห็น เคอร์ติส โจนส์ (Curtis Jones) ในโหมดทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่ เช่นกัน

 

สำหรับอนาคต ของ ลี คาร์สลีย์ หลังจากที่ จบภาระกิจกับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ก็มีการยืนยันออกมาจากเจ้าตัวแล้วว่า จะกลับไป คุมทีม U-21 ต่อไป

 

อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า ทาง ลี คาร์สลีย์ (Lee Carsley) นั้นถูกแต่งตั้งมารักษาการแทนเป็นกุนซือขัดตาทัพ หลัง แกเร็ธ เซาธ์เกต (Gareth Southgate) วางมือไป หลังเสร็จสิ้นจากภาระกิจ ยูโร 2024 ที่พาทีมเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แต่ก็อกหักพ่ายสเปนไป ผลงานของ ลี คาร์สลีย์ (Lee Carsley)  นั้นคุมไป 4 เกม เอาชนะไปได้ถึง 3 เกม แต่ก็มีเกมที่ทำเอมแฟนๆ สิงโตคำรามเซ็งกันไปไม่น้อย อย่างเกมพ่าย กรีซ คาบ้าน และในที่สุดเมื่อทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการไปแล้วในการแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิ่ล (Thomas Tuchel) เฮ้ดโค้ช ชาวเยอรมัน เข้ามารับตำแหน่งแทน โดยจะเริ่มงานในเดือน มกราคมนี้ ทำให้ ฟีฟ่า เดย์หนนี้ จะเป็นการคุมทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่ 2 นัดสุดท้ายของ ลี คาร์สลีย์ (Lee Carsley) ซึ่งจะมีเกมกับ กรีซ และ ไอร์แลนด์  ตามลำคับ ก่อนที่เจ้าตัวจะมีการเปิดเผยออกมาว่า หลังจากจบภาระกิจ กับสิงโตคำราม ชุดใหญ่ เขาก็จะกลับไปเป็นเฮ้ดโค้ช ให้กับ ทีมชาติอังกฤษ ชุด U-21 ต่อไป ซึ่งเขาก็พร้อมจะนำประสบการณ์ที่ได้ไปพัฒนาให้ เด็กๆ ในชุด U-21 แข็งแกร่งและเติบโตได้ดีในอนาคต

มาซราอุยของแมนยูเข้ารับการรักษาเล็กน้อยหลังมีอาการใจสั่น

มาซราอุยของแมนยูเข้ารับการรักษาเล็กน้อยหลังมีอาการใจสั่น

แฟนบอลทั่วโลกต่างให้ความสนใจกับข่าวล่าสุดจากวงการฟุตบอลอังกฤษ เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมจาก พรีเมียร์ ลีก ประกาศว่า นูแซร์ มาซราอุย (Noussair Mazraoui) กองหลังคนสำคัญของทีม ได้เข้ารับการรักษาเล็กน้อยหลังจากมีอาการใจสั่น สร้างความกังวลให้กับแฟนบอลปีศาจแดงไม่น้อย

มาซราอุย (Mazraoui) วัย 26 ปี เป็นนักเตะสัญชาติ โมร็อกโก ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวเริ่มต้นที่ 12.8 ล้านปอนด์ จาก บาเยิร์น มิวนิค ทีมยักษ์ใหญ่แห่งลีก บุนเดสลีกา เยอรมนี โดยเขาได้ลงเล่นให้กับทีมปีศาจแดงไปแล้วทั้งสิ้น 10 นัดในทุกรายการ และได้ลงตัวจริงในลีกสูงสุดของอังกฤษครบทั้ง 7 นัด แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเขาต่อทีมในฤดูกาลนี้

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อ มาซราอุย (Mazraoui) มีอาการใจสั่นระหว่างการฝึกซ้อม ทำให้ทีมแพทย์ของสโมสรต้องเข้าตรวจสอบอาการอย่างละเอียด และตัดสินใจให้เขาเข้ารับการรักษาแบบป้องกันไว้ก่อน แม้ว่าจะเป็นการรักษาเล็กน้อย แต่ก็สร้างความกังวลให้กับแฟนบอลและทีมงานไม่น้อย และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด สมัคร sbobet โดยตรง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

ทางสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกแถลงการณ์ว่า คาดว่า มาซราอุย (Mazraoui) จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ และน่าจะพร้อมกลับมาลงสนามได้ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับทีมและแฟนบอล เนื่องจาก มาซราอุย (Mazraoui) เป็นกำลังสำคัญในแนวรับของทีมในฤดูกาลนี้

ที่น่าสนใจคือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ มาซราอุย (Mazraoui) ต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ ในเดือนมกราคม 2023 เขาเคยต้องพักจากวงการฟุตบอลชั่วคราวเพื่อรักษาอาการอักเสบของเนื้อเยื่อหัวใจ หลังจากป่วยเป็นโควิด-19 ในครั้งนั้น เขาใช้เวลาหนึ่งเดือนในการฟื้นฟูร่างกายและกลับมาซ้อมกับลูกบอลได้ แต่ไม่ได้กลับมาลงแข่งขันอย่างเป็นทางการจนกระทั่งถึงเดือนมีนาคม

เหตุการณ์ครั้งนี้จึงทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่า อาการใจสั่นของ มาซราอุย (Mazraoui) อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพในอดีตหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่า การรักษาในครั้งนี้เป็นเพียงมาตรการป้องกันเท่านั้น และไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการเล่นฟุตบอลในระยะยาวของเขา

การขาดหายไปของ มาซราอุย (Mazraoui) แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่อแผนการเล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตารางการแข่งขันค่อนข้างแน่น ทั้งในลีกและรายการถ้วยยุโรป ผู้จัดการทีม เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) อาจต้องปรับแผนการเล่นและหาตัวแทนในตำแหน่งแบ็คขวาในช่วงที่ มาซราอุย (Mazraoui) พักรักษาตัว

แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และชาว โมร็อกโก ต่างส่งกำลังใจให้กับ มาซราอุย (Mazraoui) หวังว่าเขาจะหายดีและกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมโดยเร็ว พร้อมกลับมาช่วยทีมในการลุ้นอันดับท็อปโฟร์ของ พรีเมียร์ ลีก และการแข่งขันในรายการ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ต่อไป

นับเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำหรับ มาซราอุย (Mazraoui) ในการพิสูจน์ความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ หลังจากที่เขาเคยผ่านช่วงเวลายากลำบากมาแล้วในอดีต การกลับมาของเขาจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกัน ทีมแพทย์ของสโมสรก็จะต้องติดตามอาการของเขาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะกลับมาลงสนามได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ นูแซร์ มาซราอุย (Noussair Mazraoui) มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด สมัคร sbobet โดยตรง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

เทน ฮาก สนับสนุน ‘ขวดซอสมะเขือเทศ’ แรชฟอร์ด หลังทำประตูได้

เทน ฮาก สนับสนุน ‘ขวดซอสมะเขือเทศ’ แรชฟอร์ด หลังทำประตูได้

เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาปกป้อง มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) กองหน้าคนสำคัญของทีม หลังจากที่เขาตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากฟอร์มการเล่นที่ไม่ดีนักในเกมที่แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อไม่นานมานี้

เทน ฮาก (Ten Hag) กล่าวว่า แรชฟอร์ด (Rashford) ได้รับ “ความเห็นในแง่ลบมากเกินไป” ในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว เขายังคงสร้างโอกาสที่ดีให้กับทีมได้อยู่เสมอ ผู้จัดการชาว ดัตช์ ยืนยันว่า แรชฟอร์ด (Rashford) ยังคงเป็นผู้เล่นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทีม และเชื่อมั่นว่าเขาจะกลับมาฟอร์มเก่งได้ในไม่ช้า

ล่าสุด แรชฟอร์ด (Rashford) ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของเขาอีกครั้ง ด้วยการยิงประตูที่สองให้กับทีมในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ เซาแธมป์ตัน ไปได้ 3-0 ที่สนาม เซนต์ แมรีส์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นับเป็นประตูแรกของเขาในการแข่งขันทุกรายการนับตั้งแต่เดือนมีนาคม เมื่อเขายิงประตูในเกมชนะ ลิเวอร์พูล 4-3 ในศึก เอฟเอ คัพ

เทน ฮาก (Ten Hag) กล่าวถึงประตูล่าสุดของ แรชฟอร์ด (Rashford) ว่า “เขาสมควรได้ประตูนั้น แต่เขาต้องทำงานหนักเพื่อมัน นั่นคือสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ และแล้วคุณก็จะได้รับรางวัล” ผู้จัดการทีมชาว ดัตช์ ยังเน้นย้ำว่า การที่ แรชฟอร์ด (Rashford) กลับมายิงประตูได้อีกครั้งนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นใจของเขาและทีม และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด สโบบอลเดี่ยว สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

แรชฟอร์ด (Rashford) วัย 26 ปี เป็นผลผลิตจากอคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และได้เล่นให้กับทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2015 ตลอดระยะเวลาเกือบทศวรรษที่ผ่านมา เขาได้ยิงไปแล้วทั้งสิ้น 132 ประตูให้กับสโมสร ซึ่งถือเป็นสถิติที่น่าประทับใจสำหรับนักเตะในวัยของเขา

เทน ฮาก (Ten Hag) แสดงความเชื่อมั่นว่า แรชฟอร์ด (Rashford) จะสามารถยิงประตูได้อีกมากมายให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอนาคต โดยเขาได้ยกคำอุปมาอุปมัยที่เคยใช้โดย คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) อดีตดาวยิงของทีมมาใช้ เขากล่าวว่า “ครั้งหนึ่งกองหน้าเคยพูดถึงขวดซอสมะเขือเทศ เมื่อมันเริ่มไหล มันก็จะออกมามากขึ้น” เปรียบเสมือนกับการยิงประตูของนักฟุตบอล ที่เมื่อเริ่มยิงได้แล้ว ก็มักจะยิงได้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เทน ฮาก (Ten Hag) ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการไม่ให้ความสนใจกับเสียงวิจารณ์จากภายนอกมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของ แรชฟอร์ด (Rashford) ที่เขารู้สึกว่าได้รับการวิจารณ์อย่างไม่เป็นธรรมในช่วงที่ผ่านมา เขากล่าวว่า “มันสำคัญมากที่เราไม่ให้ความสนใจกับสิ่งที่โลกภายนอกพูด”

แรชฟอร์ด (Rashford) เองก็ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน แม้จะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในฤดูกาลนี้ ประตูล่าสุดของเขาในเกมกับ เซาแธมป์ตัน น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาฟอร์มเก่งอีกครั้ง

สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การกลับมาทำประตูได้ของ แรชฟอร์ด (Rashford) ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง เนื่องจากทีมกำลังต้องการผลงานที่ดีเพื่อไล่ล่าอันดับในตาราง พรีเมียร์ลีก และโอกาสในการคว้าแชมป์รายการอื่นๆ ในฤดูกาลนี้ ทั้งนี้ แฟนบอลของทีมปีศาจแดงต่างก็หวังว่า แรชฟอร์ด (Rashford) จะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีนี้ไว้ได้ตลอดทั้งฤดูกาล เพื่อช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ แรชฟอร์ด (Rashford) มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด สโบบอลเดี่ยว สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

วูล์ฟส์ใกล้บรรลุข้อตกลงมูลค่า 21 ล้านปอนด์สำหรับกองกลางทีมชาติบราซิล อันเดร

วูล์ฟส์ใกล้บรรลุข้อตกลงมูลค่า 21 ล้านปอนด์สำหรับกองกลางทีมชาติบราซิล อันเดร

สโมสร วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาซื้อตัว อังเดร (Andre) กองกลางทีมชาติ บราซิล วัย 23 ปี จากสโมสร ฟลูมิเนนเซ ด้วยค่าตัวรวม 21 ล้านปอนด์ โดยแบ่งเป็นค่าตัวเบื้องต้น 18.5 ล้านปอนด์ และอาจเพิ่มขึ้นอีกสูงสุด 2.5 ล้านปอนด์ จากเงื่อนไขเพิ่มเติม

อังเดร (Andre) เพิ่งคว้าแชมป์ โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส ซึ่งเป็นรายการแข่งขันที่เทียบเท่า แชมเปียนส์ ลีก ของทวีป อเมริกาใต้ กับ ฟลูมิเนนเซ ในปี 2023 และเขาได้เปิดเผยต่อสาธารณะว่ามีความสนใจที่จะย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ก่อนหน้านี้ อังเดร (Andre) เกือบจะได้ย้ายไปร่วมทีม ฟูแล่ม แต่ดีลดังกล่าวล่มในช่วงต้นของตลาดซื้อขายนักเตะ การย้ายทีมครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสครั้งที่สองของเขาในการได้มาเล่นใน อังกฤษ

หาก วูล์ฟส์ สามารถปิดดีลนี้ได้สำเร็จ อังเดร (Andre) จะกลายเป็นนักเตะคนที่ 6 ที่ย้ายเข้ามาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยก่อนหน้านี้ สโมสรได้คว้าตัว ทอมมี่ ดอยล์ (Tommy Doyle) กองกลางทีมชาติ อังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี, โรดริโก โกเมส (Rodrigo Gomes) ปีกชาว โปรตุเกส, เปโดร ลิมา (Pedro Lima) กองหลังชาว บราซิล และ ยอร์เกน สตรานด์ ลาร์เซน (Jorgen Strand Larsen) กองหน้าทีมชาติ นอร์เวย์ ที่ยืมตัวมาจาก เซลตา บีโก และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด sbobet สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

การเสริมทัพครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ วูล์ฟส์ เนื่องจากพวกเขาเพิ่งพ่ายแพ้ในสองนัดแรกของฤดูกาลใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมล่าสุดที่พ่ายคาบ้านให้กับ เชลซี ด้วยสกอร์ 2-6 ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ที่หนักหนาสาหัส

ผู้จัดการทีม แกรี่ โอนีล (Gary O’Neil) จำเป็นต้องเร่งปรับปรุงทีมโดยด่วน โดยเฉพาะในแดนกลางที่ยังขาดความแข็งแกร่งและประสบการณ์ การเซ็นสัญญากับ อังเดร (Andre) จึงอาจเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้

อังเดร (Andre) เป็นกองกลางที่มีพรสวรรค์สูง เขามีทักษะการครองบอลที่ยอดเยี่ยม วิสัยทัศน์ในการเล่นที่กว้างไกล และความสามารถในการสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม นอกจากนี้ เขายังมีความแข็งแกร่งในการเข้าปะทะและการยึดพื้นที่ในแดนกลาง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ วูล์ฟส์ กำลังต้องการอย่างมาก

การย้ายทีมครั้งนี้ยังอาจส่งผลดีต่อตัว อังเดร (Andre) เองด้วย เนื่องจาก พรีเมียร์ลีก เป็นลีกที่มีความท้าทายสูงและเป็นเวทีที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาฝีเท้าของเขา การได้เล่นในลีกระดับสูงของ อังกฤษ ยังอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการติดทีมชาติ บราซิล ชุดใหญ่อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม วูล์ฟส์ จำเป็นต้องเร่งปิดดีลนี้ให้เร็วที่สุด เนื่องจากพวกเขามีเกมสำคัญรออยู่ในวันเสาร์ที่ 2 กันยายน เวลา 15:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (BST) โดยจะต้องเดินทางไปเยือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ที่สนาม ซิตี้ กราวด์ หาก อังเดร (Andre) สามารถย้ายทีมได้ทันเวลา เขาอาจมีโอกาสได้ลงสนามในเกมนี้ทันที

การเสริมทัพครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ วูล์ฟส์ ในการปรับปรุงทีมและพยายามหลีกเลี่ยงการตกชั้น พวกเขาหวังว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยยกระดับการเล่นของทีมและนำมาซึ่งผลการแข่งขันที่ดีขึ้นในเกมที่เหลือของฤดูกาล

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ วูล์ฟแฮมป์ตัน มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด sbobet สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

เบรนท์ฟอร์ด คว้าตัว ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ปีกดาวรุ่งวัย 21 ปีจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวรวมสูงถึง 27.5 ล้านปอนด์

เบรนท์ฟอร์ด สร้างความฮือฮาในตลาดซื้อขายนักเตะ ด้วยการคว้าตัว ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ (Fabio Carvalho) ปีกดาวรุ่งวัย 21 ปีจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวรวมสูงถึง 27.5 ล้านปอนด์ รวมโบนัส การย้ายทีมครั้งนี้นับเป็นการเสริมทัพครั้งสำคัญของทีม “เดอะ บีส์” ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ฤดูกาลใหม่ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

คาร์วัลโญ่ (Carvalho) เซ็นสัญญากับ เบรนท์ฟอร์ด เป็นเวลา 5 ปี พร้อมออปชั่นขยายสัญญาเพิ่มอีก 1 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของสโมสรที่มีต่อศักยภาพของนักเตะรายนี้ ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล จะได้รับค่าตัวเบื้องต้น 22.5 ล้านปอนด์ และได้เจรจาเงื่อนไขส่วนแบ่งการขายต่อ 17.5% ซึ่งอาจทำให้ “หงส์แดง” ได้รับผลประโยชน์เพิ่มเติมในอนาคตหากคาร์วัลโญ่ (Carvalho) ถูกขายต่อด้วยราคาที่สูงขึ้น

น่าสนใจไม่น้อยที่ ฟูแล่ม อดีตต้นสังกัดของ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ก่อนย้ายไป ลิเวอร์พูล ในปี 2022 จะได้รับส่วนแบ่ง 20% ของกำไรจากการย้ายทีมครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของข้อตกลงในการซื้อขายนักเตะระดับสูง และการวางแผนระยะยาวของสโมสรในการรักษาผลประโยชน์จากนักเตะที่พวกเขาเคยพัฒนา และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด sbo สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

การคว้าตัว คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ของ เบรนท์ฟอร์ด ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องเอาชนะการแข่งขันจาก เซาแธมป์ตัน ทีมใน แชมเปี้ยนชิพ ที่เคยยื่นข้อเสนอ 15 ล้านปอนด์แต่ถูก ลิเวอร์พูล ปฏิเสธ การที่ เบรนท์ฟอร์ด สามารถเสนอค่าตัวที่สูงกว่าและโน้มน้าวให้ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) เลือกย้ายมาร่วมทีม แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานและศักยภาพทางการเงินของสโมสรที่กำลังเติบโตใน พรีเมียร์ลีก

ย้อนกลับไปมองประวัติของ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) กับ ลิเวอร์พูล เขาเคยถูกมองว่าเป็นดาวรุ่งที่มีอนาคตไกล แต่กลับประสบปัญหาในการสร้างผลงานที่แอนฟิลด์ โดยทำได้เพียง 3 ประตูจาก 21 นัดในทุกรายการ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการแข่งขันที่สูงในทีมและความกดดันที่มาพร้อมกับการเล่นให้สโมสรระดับท็อปของ อังกฤษ

ในความพยายามที่จะพัฒนาฝีเท้าและได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับ อาร์บี ไลป์ซิก ทีมดังใน บุนเดสลีกา เยอรมนี เมื่อต้นฤดูกาล 2023-24 แต่โชคร้ายที่เขาไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ และส่วนใหญ่ต้องนั่งสำรอง ทำให้ต้องกลับมา ลิเวอร์พูล ในเดือนธันวาคม ก่อนจะถูกปล่อยยืมตัวอีกครั้งให้กับ ฮัลล์ ซิตี้ ทีมใน แชมเปี้ยนชิพ

การย้ายไปอยู่กับ ฮัลล์ ซิตี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในฤดูกาลของ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) เขาแจ้งเกิดอย่างสวยงามด้วยการทำ 9 ประตูจาก 20 เกม แม้ว่าทีม “เดอะ ไทเกอร์ส” จะพลาดโอกาสเข้ารอบเพลย์ออฟอย่างหวุดหวิด แต่ฟอร์มอันร้อนแรงของเขาก็ไม่ได้ผ่านสายตาทีมใน พรีเมียร์ลีก ไปได้

การย้ายมาร่วมทีม เบรนท์ฟอร์ด อาจเป็นโอกาสทองของ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ในการพิสูจน์ตัวเองใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง ภายใต้การนำของ โทมัส แฟรงค์ (Thomas Frank) ผู้จัดการทีมที่มีชื่อเสียงในการพัฒนานักเตะดาวรุ่ง เบรนท์ฟอร์ด อาจเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ในการเติบโตและแสดงศักยภาพที่แท้จริงของเขา

การย้ายทีมครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างอำนาจของฟุตบอล อังกฤษ ทีมอย่าง เบรนท์ฟอร์ด ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาใน พรีเมียร์ลีก ไม่กี่ปี สามารถแข่งขันในตลาดซื้อขายนักเตะและดึงดูดผู้เล่นที่มีความสามารถจากทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล ได้ นี่อาจเป็นสัญญาณของการกระจายอำนาจและโอกาสที่มากขึ้นสำหรับทีมขนาดกลางในการสร้างความสำเร็จในลีกสูงสุดของ อังกฤษ

ในท้ายที่สุด การย้ายทีมของ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ไป เบรนท์ฟอร์ด เป็นการเดิมพันที่น่าสนใจสำหรับทุกฝ่าย ทั้งนักเตะที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง สโมสรที่ต้องการยกระดับทีม และแฟนบอลที่จะได้เห็นการพัฒนาของดาวรุ่งรายนี้ในฤดูกาลที่จะมาถึง

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ (Fabio Carvalho) มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด sbo สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ