วูล์ฟส์ใกล้บรรลุข้อตกลงมูลค่า 21 ล้านปอนด์สำหรับกองกลางทีมชาติบราซิล อันเดร

วูล์ฟส์ใกล้บรรลุข้อตกลงมูลค่า 21 ล้านปอนด์สำหรับกองกลางทีมชาติบราซิล อันเดร

สโมสร วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาซื้อตัว อังเดร (Andre) กองกลางทีมชาติ บราซิล วัย 23 ปี จากสโมสร ฟลูมิเนนเซ ด้วยค่าตัวรวม 21 ล้านปอนด์ โดยแบ่งเป็นค่าตัวเบื้องต้น 18.5 ล้านปอนด์ และอาจเพิ่มขึ้นอีกสูงสุด 2.5 ล้านปอนด์ จากเงื่อนไขเพิ่มเติม

อังเดร (Andre) เพิ่งคว้าแชมป์ โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส ซึ่งเป็นรายการแข่งขันที่เทียบเท่า แชมเปียนส์ ลีก ของทวีป อเมริกาใต้ กับ ฟลูมิเนนเซ ในปี 2023 และเขาได้เปิดเผยต่อสาธารณะว่ามีความสนใจที่จะย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ก่อนหน้านี้ อังเดร (Andre) เกือบจะได้ย้ายไปร่วมทีม ฟูแล่ม แต่ดีลดังกล่าวล่มในช่วงต้นของตลาดซื้อขายนักเตะ การย้ายทีมครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสครั้งที่สองของเขาในการได้มาเล่นใน อังกฤษ

หาก วูล์ฟส์ สามารถปิดดีลนี้ได้สำเร็จ อังเดร (Andre) จะกลายเป็นนักเตะคนที่ 6 ที่ย้ายเข้ามาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยก่อนหน้านี้ สโมสรได้คว้าตัว ทอมมี่ ดอยล์ (Tommy Doyle) กองกลางทีมชาติ อังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี, โรดริโก โกเมส (Rodrigo Gomes) ปีกชาว โปรตุเกส, เปโดร ลิมา (Pedro Lima) กองหลังชาว บราซิล และ ยอร์เกน สตรานด์ ลาร์เซน (Jorgen Strand Larsen) กองหน้าทีมชาติ นอร์เวย์ ที่ยืมตัวมาจาก เซลตา บีโก และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด sbobet สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

การเสริมทัพครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ วูล์ฟส์ เนื่องจากพวกเขาเพิ่งพ่ายแพ้ในสองนัดแรกของฤดูกาลใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมล่าสุดที่พ่ายคาบ้านให้กับ เชลซี ด้วยสกอร์ 2-6 ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ที่หนักหนาสาหัส

ผู้จัดการทีม แกรี่ โอนีล (Gary O’Neil) จำเป็นต้องเร่งปรับปรุงทีมโดยด่วน โดยเฉพาะในแดนกลางที่ยังขาดความแข็งแกร่งและประสบการณ์ การเซ็นสัญญากับ อังเดร (Andre) จึงอาจเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้

อังเดร (Andre) เป็นกองกลางที่มีพรสวรรค์สูง เขามีทักษะการครองบอลที่ยอดเยี่ยม วิสัยทัศน์ในการเล่นที่กว้างไกล และความสามารถในการสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม นอกจากนี้ เขายังมีความแข็งแกร่งในการเข้าปะทะและการยึดพื้นที่ในแดนกลาง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ วูล์ฟส์ กำลังต้องการอย่างมาก

การย้ายทีมครั้งนี้ยังอาจส่งผลดีต่อตัว อังเดร (Andre) เองด้วย เนื่องจาก พรีเมียร์ลีก เป็นลีกที่มีความท้าทายสูงและเป็นเวทีที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาฝีเท้าของเขา การได้เล่นในลีกระดับสูงของ อังกฤษ ยังอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการติดทีมชาติ บราซิล ชุดใหญ่อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม วูล์ฟส์ จำเป็นต้องเร่งปิดดีลนี้ให้เร็วที่สุด เนื่องจากพวกเขามีเกมสำคัญรออยู่ในวันเสาร์ที่ 2 กันยายน เวลา 15:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (BST) โดยจะต้องเดินทางไปเยือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ที่สนาม ซิตี้ กราวด์ หาก อังเดร (Andre) สามารถย้ายทีมได้ทันเวลา เขาอาจมีโอกาสได้ลงสนามในเกมนี้ทันที

การเสริมทัพครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ วูล์ฟส์ ในการปรับปรุงทีมและพยายามหลีกเลี่ยงการตกชั้น พวกเขาหวังว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยยกระดับการเล่นของทีมและนำมาซึ่งผลการแข่งขันที่ดีขึ้นในเกมที่เหลือของฤดูกาล

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ วูล์ฟแฮมป์ตัน มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด sbobet สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

ตลาดนักเตะซัมเมอร์: ใครจะย้ายทีมในนาทีสุดท้าย?

ตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย แต่การย้ายทีมของนักเตะชื่อดังยังคงเป็นประเด็นร้อนที่แฟนบอลต้องจับตามอง หลายสโมสรใหญ่ในพรีเมียร์ลีกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และนักเตะหลายคนอาจเปลี่ยนสีเสื้อในอีกไม่กี่วันข้างหน้า วันนี้ sbobetonline24 เว็ปข่าวสารกีฬาและ วิธีแทงบอลออนไลน์ ได้สรุปข้อมูลมาให้แล้ว

ราฮีม สเตอร์ลิง อนาคตที่ไม่แน่นอนกับเชลซี

ราฮีม สเตอร์ลิง (Raheem Sterling) ปีกตัวเก่งของเชลซี อาจเป็นหนึ่งในนักเตะที่กำลังพิจารณาย้ายทีม หลังจากที่ถูกตัดชื่อออกจากเกมเปิดฤดูกาลของเชลซีที่พบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา การขาดชื่อของเขาจากทีมตามมาด้วยคำถามจากตัวแทนของสเตอร์ลิงที่ต้องการความชัดเจนเกี่ยวกับบทบาทของเขาที่สโมสร

ในวัย 29 ปี สเตอร์ลิงยังคงเป็นนักเตะที่หลายสโมสรต้องการ ซึ่งมีข่าวลือว่าเวสต์แฮมและคริสตัล พาเลซได้เริ่มแสดงความสนใจในการดึงตัวเขาไปร่วมทีม สเตอร์ลิงลงสนามให้เชลซีไปแล้ว 81 นัดนับตั้งแต่ย้ายมาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ในเดือนกรกฎาคม 2022

สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

เชลซี (Chelsea) เป็นหนึ่งในทีมที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ โดยพวกเขาใช้เงินไปกว่า 185 ล้านปอนด์ในการเซ็นสัญญานักเตะใหม่ 11 คน ซึ่งทำให้โค้ช เอ็นโซ มาเรสก้า (Enzo Maresca) ต้องบริหารจัดการทีมที่มีนักเตะระดับซีเนียร์มากกว่า 40 คน

คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (Conor Gallagher) เป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกมองว่าอาจย้ายออกจากทีมเชลซี แม้ว่าการย้ายไปแอตเลติโก มาดริด (Atlético Madrid) จะยังคงถูกพักไว้ ในขณะที่เบน ชิลเวลล์ (Ben Chilwell) ซึ่งไม่ได้ลงสนามในเกมเปิดฤดูกาล ก็มีความเป็นไปได้ที่จะย้ายออกเช่นกัน นักเตะเชลซีคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ลงสนามได้แก่ เทรโวห์ ชาโลบาห์ (Trevoh Chalobah) และโนนี่ มาดูเอเก้ (Noni Madueke) ทำให้เชลซีอาจต้องมีการขายนักเตะจำนวนมากเพื่อกฏการเงินทีมก่อนที่ตลาดนักเตะจะปิดตัวลง

อิวาน โทนี่ย์ และการย้ายทีมที่กำลังใกล้เข้ามา

อิวาน โทนี่ย์ (Ivan Toney) กองหน้าตัวเก่งของเบรนท์ฟอร์ด (Brentford) อาจย้ายออกจากทีมในเร็วๆ นี้ หลังจากที่ทีมซาอุดิอาระเบีย อัล-อาห์ลี ได้ยื่นข้อเสนอ 35 ล้านปอนด์ให้กับเบรนท์ฟอร์ดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถูกปฏิเสธไป โทมัส แฟรงค์ โค้ชของเบรนท์ฟอร์ด ได้ยอมรับว่ามีโอกาสสูงที่โทนี่ย์จะย้ายทีมในซัมเมอร์นี้

มาร์ค เกฮี และโจ โกเมซ: เป้าหมายที่นิวคาสเซิล

นิวคาสเซิล (Newcastle) กำลังมองหากองหลังรายใหม่ และมาร์ค เกฮี (Marc Guéhi)จากคริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) ก็เป็นเป้าหมายสำคัญ พาเลซได้ปฏิเสธข้อเสนอจากนิวคาสเซิลถึงสามครั้ง โดยข้อเสนอสุดท้ายอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านปอนด์ ถ้านิวคาสเซิลไม่สามารถดึงตัวเกฮีมาร่วมทีมได้ โจ โกเมซ (Joe Gomez)  จากลิเวอร์พูล(Liverpool)ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน

มิเกล เมริโน่: เสริมทัพอาร์เซน่อล

ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล (Arsenal) กำลังอยู่ในระหว่างการพูดคุยเจรจากับเรอัล โซเซียดัด (Real Sociedad)ในการเซ็นสัญญากับมิดฟิลด์ชาวสเปน มิเกล เมริโน่ (Mikel Merino) ที่เป็นส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ยูโร 2024 ของทีมชาติสเปน การเจรจานี้อาจสำเร็จในอีกไม่ช้า เนื่องจากเมริโน่เหลือสัญญากับโซเซียดัดไม่ถึงหนึ่งปี

ตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ยังไม่จบ และการเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นในช่วงนาทีสุดท้าย เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการย้ายทีมที่อาจเกิดขึ้นอีกมากมาย หากต้องการทราบ วิธีแทงบอลออนไลน์ สามารถอ่านได้ที่sbobetonline24

 

เบรนท์ฟอร์ด คว้าตัว ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ปีกดาวรุ่งวัย 21 ปีจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวรวมสูงถึง 27.5 ล้านปอนด์

เบรนท์ฟอร์ด สร้างความฮือฮาในตลาดซื้อขายนักเตะ ด้วยการคว้าตัว ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ (Fabio Carvalho) ปีกดาวรุ่งวัย 21 ปีจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวรวมสูงถึง 27.5 ล้านปอนด์ รวมโบนัส การย้ายทีมครั้งนี้นับเป็นการเสริมทัพครั้งสำคัญของทีม “เดอะ บีส์” ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ฤดูกาลใหม่ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

คาร์วัลโญ่ (Carvalho) เซ็นสัญญากับ เบรนท์ฟอร์ด เป็นเวลา 5 ปี พร้อมออปชั่นขยายสัญญาเพิ่มอีก 1 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของสโมสรที่มีต่อศักยภาพของนักเตะรายนี้ ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล จะได้รับค่าตัวเบื้องต้น 22.5 ล้านปอนด์ และได้เจรจาเงื่อนไขส่วนแบ่งการขายต่อ 17.5% ซึ่งอาจทำให้ “หงส์แดง” ได้รับผลประโยชน์เพิ่มเติมในอนาคตหากคาร์วัลโญ่ (Carvalho) ถูกขายต่อด้วยราคาที่สูงขึ้น

น่าสนใจไม่น้อยที่ ฟูแล่ม อดีตต้นสังกัดของ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ก่อนย้ายไป ลิเวอร์พูล ในปี 2022 จะได้รับส่วนแบ่ง 20% ของกำไรจากการย้ายทีมครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของข้อตกลงในการซื้อขายนักเตะระดับสูง และการวางแผนระยะยาวของสโมสรในการรักษาผลประโยชน์จากนักเตะที่พวกเขาเคยพัฒนา และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด sbo สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

การคว้าตัว คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ของ เบรนท์ฟอร์ด ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องเอาชนะการแข่งขันจาก เซาแธมป์ตัน ทีมใน แชมเปี้ยนชิพ ที่เคยยื่นข้อเสนอ 15 ล้านปอนด์แต่ถูก ลิเวอร์พูล ปฏิเสธ การที่ เบรนท์ฟอร์ด สามารถเสนอค่าตัวที่สูงกว่าและโน้มน้าวให้ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) เลือกย้ายมาร่วมทีม แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานและศักยภาพทางการเงินของสโมสรที่กำลังเติบโตใน พรีเมียร์ลีก

ย้อนกลับไปมองประวัติของ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) กับ ลิเวอร์พูล เขาเคยถูกมองว่าเป็นดาวรุ่งที่มีอนาคตไกล แต่กลับประสบปัญหาในการสร้างผลงานที่แอนฟิลด์ โดยทำได้เพียง 3 ประตูจาก 21 นัดในทุกรายการ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการแข่งขันที่สูงในทีมและความกดดันที่มาพร้อมกับการเล่นให้สโมสรระดับท็อปของ อังกฤษ

ในความพยายามที่จะพัฒนาฝีเท้าและได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับ อาร์บี ไลป์ซิก ทีมดังใน บุนเดสลีกา เยอรมนี เมื่อต้นฤดูกาล 2023-24 แต่โชคร้ายที่เขาไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ และส่วนใหญ่ต้องนั่งสำรอง ทำให้ต้องกลับมา ลิเวอร์พูล ในเดือนธันวาคม ก่อนจะถูกปล่อยยืมตัวอีกครั้งให้กับ ฮัลล์ ซิตี้ ทีมใน แชมเปี้ยนชิพ

การย้ายไปอยู่กับ ฮัลล์ ซิตี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในฤดูกาลของ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) เขาแจ้งเกิดอย่างสวยงามด้วยการทำ 9 ประตูจาก 20 เกม แม้ว่าทีม “เดอะ ไทเกอร์ส” จะพลาดโอกาสเข้ารอบเพลย์ออฟอย่างหวุดหวิด แต่ฟอร์มอันร้อนแรงของเขาก็ไม่ได้ผ่านสายตาทีมใน พรีเมียร์ลีก ไปได้

การย้ายมาร่วมทีม เบรนท์ฟอร์ด อาจเป็นโอกาสทองของ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ในการพิสูจน์ตัวเองใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง ภายใต้การนำของ โทมัส แฟรงค์ (Thomas Frank) ผู้จัดการทีมที่มีชื่อเสียงในการพัฒนานักเตะดาวรุ่ง เบรนท์ฟอร์ด อาจเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ในการเติบโตและแสดงศักยภาพที่แท้จริงของเขา

การย้ายทีมครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างอำนาจของฟุตบอล อังกฤษ ทีมอย่าง เบรนท์ฟอร์ด ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาใน พรีเมียร์ลีก ไม่กี่ปี สามารถแข่งขันในตลาดซื้อขายนักเตะและดึงดูดผู้เล่นที่มีความสามารถจากทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล ได้ นี่อาจเป็นสัญญาณของการกระจายอำนาจและโอกาสที่มากขึ้นสำหรับทีมขนาดกลางในการสร้างความสำเร็จในลีกสูงสุดของ อังกฤษ

ในท้ายที่สุด การย้ายทีมของ คาร์วัลโญ่ (Carvalho) ไป เบรนท์ฟอร์ด เป็นการเดิมพันที่น่าสนใจสำหรับทุกฝ่าย ทั้งนักเตะที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง สโมสรที่ต้องการยกระดับทีม และแฟนบอลที่จะได้เห็นการพัฒนาของดาวรุ่งรายนี้ในฤดูกาลที่จะมาถึง

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ (Fabio Carvalho) มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด sbo สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

มอริซิโอ โปเช็ตติโน่ กลายเป็นเป้าหมายหลักของทีมชาติสหรัฐฯ

มอริซิโอ โปเช็ตติโน่ (Mauricio Pochettino) กลายเป็นเป้าหมายหลักของทีมชาติสหรัฐฯ

โค้ชชาวอาร์เจนตินา มอริซิโอ โปเช็ตติโน่ (Mauricio Pochettino) ได้กลายเป็นหนึ่งใน “เป้าหมายหลัก” สำหรับตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติสหรัฐฯ ตามรายงานของ The Athletic สหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐฯ กำลังมองหาผู้ที่จะมาแทนที่ เกร็ก เบอร์ฮัลเทอร์ และกำลังพิจารณาผู้สมัครหลายคน แต่โปเช็ตติโน่ถือเป็นตัวเต็งและกำลังมีการเจรจากับตัวแทนของเขา คืนนี้อย่าลืมติดตาม ฟุตบอลชาย โอลิมปิก 2024 นัดชิงเหรียญทอง

ประวัติการเริ่มต้น

โปเช็ตติโน่เกิดในปี 1972 และเริ่มต้นอาชีพฟุตบอลที่สโมสร นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ (Newell’s Old Boys) ในเมืองโรซาริโอ ประเทศอาร์เจนตินา ที่ซึ่งเขาได้แชมป์ลีกอาร์เจนตินาเมื่ออายุเพียง 18 ปี ภายใต้การฝึกสอนของ มาร์เซโล บิเอลซา ในปี 1994 เขาย้ายไปยุโรปและเล่นให้กับสโมสรเอสปันญ่อล, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และบอร์กโดซ์ ก่อนจะกลับมาที่เอสปันญ่อลอีกครั้ง

เส้นทางโค้ช

โปเช็ตติโน่เริ่มต้นอาชีพโค้ชที่เอสปันญ่อล ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาจบอาชีพนักฟุตบอลในปี 2006 หลังจากสามฤดูกาลครึ่งที่มีความหวังที่เอสปันญ่อล โปเช็ตติโน่ได้เข้าร่วมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยเริ่มต้นที่เซาแธมป์ตันก่อนจะเซ็นสัญญากับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ซึ่งเขาคุมทีมตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2019 ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของสโมสรในประวัติศาสตร์ล่าสุด ในยุคของเขาที่ท็อตแน่ม โปเช็ตติโน่พาทีมคว้าอันดับสองในพรีเมียร์ลีกในปี 2017 และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในปี 2019 แม้ว่าทีมจะแพ้ให้กับลิเวอร์พูล

ช่วงเวลาสุดท้ายในยุโรป

หลังจากสิ้นสุดเวลาที่ท็อตแน่ม โปเช็ตติโน่ได้เข้ามาแทนที่ โธมัส ทูเคิล ที่ปารีส แซงต์-แชร์กแมงในเดือนมกราคม 2021 ซึ่งเขาคุมทีมจนถึงฤดูร้อนปี 2022 ไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่คว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในฐานะโค้ช หนึ่งปีต่อมาเขากลับมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง โดยได้รับการเรียกตัวจากเชลซีในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 แม้ว่าช่วงท้ายฤดูกาลจะเป็นบวก แต่เชลซีก็ไม่สามารถคว้าโควต้าลงเล่นในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้ และสโมสรอังกฤษได้ตัดสินใจเปลี่ยนโค้ช

สไตล์การเล่น

โปเช็ตติโน่เป็นโค้ชที่มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนแทคติกตามผู้เล่นที่เขามีอยู่ ซึ่งทำให้เขาใช้ทั้งระบบแผงหลังสามหรือสี่คนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ต้องการ ในช่วงเวลาที่เชลซี เขามักจะใช้ระบบ 4-2-3-1 แต่ก็เปลี่ยนมาใช้ 3-4-2-1 ในช่วงท้ายของฤดูกาล นอกจากระบบแทคติกแล้ว โปเช็ตติโน่ยังสามารถนำเสนอฟุตบอลที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะเมื่อเขาคุมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

ฟุตบอลชาย โอลิมปิก 2024 ระหว่าง ทีมชาติฝรั่งเศล กับ ทีมชาติสเปน จะฟาดแข้งวันนี้เวลา 23.00 ตามเวลาประเทศไทย