ทัพกังหันสีส้มเนเธอร์แลนด์ หรือ ฮอลแลนด์ ถือว่าเป็นทีมที่เจอผลกระทบแบบสองเด้งสำคัญในการเลื่อนศึกยูโรจากปีที่แล้ว มาเป็นปีนี้แบบเต็มๆเลย อย่างแรกพวกเค้าต้องเปลี่ยนกุนซือจากโรนัลด์ คูมัน ที่ขอลาไปคุมบาร์ซา มาเป็นแฟรงค์ เดอ บัวที่มาทำทีมแทน ไม่เท่านั้นในซีซั่นนี้พวกเค้าต้องเสียกองหลังตัวเก่งอย่าง เวอร์กิล ฟานไดค์ จากอาการบาดเจ็บไปอีก ซึ่งหากแข่งปีที่แล้วสองคนนี้ยังอยู่ พวกเค้าอาจจะไม่ได้ร่วงยูโรเร็วแบบนี้ก็เป็นได้ เรามาสรุปผลงานของเค้ากัน
ผลงานในยูโร
กังหันสีส้ม เนเธอร์แลนด์ เริ่มต้นเส้นทางด้วยรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี เพื่อนร่วมกลุ่มก็คือ ออสเตรีย, ยูเครน และมาซิโอเนียเหนือ ดูจากเพื่อนร่วมกลุ่มไม่น่ายาก แล้วก็จริง เนเธอร์แลนด์ผ่านมาได้แบบสบายๆชนะรวดหมดสามเกม มารอบน็อคเอาท์มาเจอกับ สาธารณรัฐเช็ค ต้องยอมรับว่าดูตามหน้าเสื่อพวกเค้าน่าจะผ่านได้ แต่สุดท้ายกลายเป็นความผิดพลาดของผู้เล่นอย่าง เดอ ลิทก์ กองหลังตัวเก่งจากยูเวนตุส ทำให้พวกเค้าเสียเปรียบเรื่องจำนวนคน จนทำให้โดนกดดันแล้วเสียประตูจนต้องแพ้ไป 0-2 น่าคิดเหมือนกันว่า ถ้าเปลี่ยนจาก เดอ ลิทก์ เป็น ฟาน ไดค์ จะพลาดแบบนั้นหรือไม่
นักเตะฟอร์มดี
แม้ว่าจะตกรอบเร็วเกินไปหน่อย แต่ว่าถ้าจะให้ดูว่าใครฟอร์มดี ก็ยังพอให้เห็นอยู่ คนแรกเป็น จอร์จินิโอ ไวน์จนัลดุม กองกลางที่เป็นเหมือนไดนาโม ขับเคลื่อนแผงกองกลางของทีม การครองบอลของเค้าทำให้ทีมได้เปรียบเสมอ อีกคนเป็น เมมฟิส เดปาย ที่ต่อยอดฟอร์มของตัวเองจากสโมสรได้ดี ผลงานทำได้สองประตู สองแอสซิสต์ จากสี่เกม ถือว่าเป็นเรื่องดี สามเป็น ดุมฟรีส์ ที่แจ้งเกิดในทัวร์นี้เลย ผลงานลงเล่นไปสี่เกม ทำไปได้สองประตู หลังจบทัวร์นี้ได้ข่าวว่ามีหลายทีมรุมจีบอยากให้ไปร่วมทีมด้วย
อนาคต
ทีมชุดนี้ต้องยอมรับว่าปั้นกันมาได้ดี ทั้งตัวหลักและตัวสำรอง แต่ว่าตอนนี้ยังต้องสั่งสมประสบการณ์ให้มากกว่านี้เพื่อปิดเกม ครองเกมให้ได้เปรียบ ถ้าทำได้ทัวร์ต่อไปน่าจะไปได้ไกล